"วิชา"แถลงผลสอบคดี "บอส" มีการสมคบคิดทำสำนวนสมยอมไม่สุจริต
วันที่ 01 ก.ย. 2563 เวลา 12:49 น.
"วิชา มหาคุณ" แถลงผลตรวจสอบคดี "บอส อยู่วิทยา" ชี้มีการสมคบคิดของหลายฝ่ายร่วมทำสำนวนสมยอมไม่สุจริต ทำสำนวนบกพร่องตั้งแต่ต้นทำรูปคดีเสียหายหนัก ส่งหน่วยงานเกี่ยวข้องฟันเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 63 นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน แถลงการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทีทำเนียบรัฐบาล
นายวิชา กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้มายังไม่เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์นายกฯจึงกังวลว่า การเผยแพร่จะส่งกระทบต่อตัวบุคคล แต่ รายงานที่ส่งถึงนายกฯมีการบอกอย่างละเอียดว่า มีใคร และหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องบ้าง แต่ขึ้นอยู่กับนายกฯว่าจะเปิดเผยต่อสาธารณะหรือไม่
ฉะนั้นรายงานบทสรุปที่แจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน จะมีการใช้อักษรย่อ ชื่อตัวบุคคล
ทำสำนวนบกพร่องทำรูปคดีเสียหายหนัก
"จาการตรวจสอบ เราเห็นพฤติกรรมเริ่มต้นตั้งแต่ทำสำนวนบกพร่องตั้งแต่แรก จุดที่บกพร่องคือ ตั้งข้อหาสำหรับคนตายโดยเฉพาะตำรวจที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นการไม่เป็นธรรม และไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะได้รับเงินเยียวยา แต่ทำให้รูปคดีเสียหายอย่างหนักสะท้อนว่าไม่มีความจริงจัง จริงใจในการทำสำนวน"
"เรื่องนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้ทำสำนวนอย่างมืออาชีพ เพราะบางข้อกล่าวหาไม่ได้ใส่ในสำนวน และก็สั่งไม่ฟ้อง เช่น เรื่องเมาสุราขับรถ"
"สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญนอกจากที่กล่าวมาคือ การใช้เวลายาวนานมากในการสืบสวนสอบสวน คือใช้เวลาถึง 6 เดือน และไม่ได้ตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาล ตามที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องตั้งแต่แรก จุดที่ต้องขอบคุณคือ มีอัยการหลายท่านที่ต่อสู้โดยตลอดเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ไม่ว่าจะถูกกดดันอย่างไร เขายืนหยัดว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจสอบมาใช้ไม่ได้ เราจึงต้องขอบคุณท่านเหล่านี้"
"อัยการ-เจ้าหน้าที่รัฐ-ทนายความ" ร่วมทำสำนวนสมยอมไม่สุจริต
การที่ไม่สามารถติดตามผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาลได้ ทำให้เกิดช่องโหว่ในการร้องขอความเป็นธรรมของฝ่ายผู้ต้องหา มีการร้องขอความเป็นธรรมถึง 14 ครั้ง ซึ่ง 13 ครั้งที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ แต่มาประสบความสำเร็จในครั้งที่ 14
ที่ผ่านมามีอดีตอัยการสูงสุดท่านหนึ่ง และรองอัยการสูงสุดอีกหลายคนได้ยืนยันปฏิเสธการร้องขอความเป็นธรรมนั้น แต่ครั้งที่ 14 มีรองอัยการสูงสุดท่านหนึ่งได้หยิบยกพยานหลักฐานที่ อัยการหลายท่านไม่เห็นด้วย มาบอกว่าเป็นพยานหลักฐานที่มั่นคงจนนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้อง
กระบวนในการสั่งไม่ฟ้องนี้ ถือเป็นการร่วมมือร่วมแรงใจกันอย่างผิดปกติ มีการทำสำนวนแบบสมยอมในการสอบ วันที่ก็ยังผิด ไม่เป็นวันที่จริงที่สอบพยานผู้เชี่ยวชาญ ทำให้กลับความเห็นของพยานผู้เชี่ยวชาญ
การหยิบยกพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ การร่วมมือระหว่างอัยการ เจ้าหน้าที่รัฐ ทนายความที่เกิดขึ้นในคดีนี้ คณะกรรมการตรวจสอบฯมีความเห็นว่า เป็นการทำสำนวนสมยอมไม่สุจริต ร่วมมือกันตามทฤษฎีสมคบคิด ทำให้สำนวนเสียไปตั้งแต่ต้น เหมือนที่เราพูดว่า ต้นไม้พิษสร้างผลไม้อันเป็นพิษ ในกระบวนการเราเห็นสมควรให้มีการสอบสวนใหม่ เริ่มนับหนึ่งใหม่ในคดี แต่บางข้อหาได้ขาดยุติไปแล้วเนื่องจากขาดอายุความ ดังนั้นในข้อเสนอแนะจึงเสนอให้แก้โดยเร่งด่วน ให้อายุความหยุดลงเมื่อผู้ต้องหาหลบหนี แบบเดียวกับคดีทุจริต
สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในระดับสูง จะต้องดำเนินการเรื่องจริยธรรม สามารถทำให้พ้นตำแหน่งได้ ซึ่งหลังจากนี้จะประสาน ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป
"การตรวจสอบ" - Google News
September 01, 2020 at 12:54PM
https://ift.tt/34SOQX8
"วิชา"แถลงผลสอบคดี "บอส" มีการสมคบคิดทำสำนวนสมยอมไม่สุจริต - โพสต์ทูเดย์
"การตรวจสอบ" - Google News
https://ift.tt/2V8hayf
0 Comments:
Post a Comment