วันนี้(13 ก.ค.2563) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีการตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปหาประโยชน์โดยการวิ่งเต้น ล็อคสเปกงานติดตั้งกล้อง CCTV โดยมีนายสมภาส นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือเพื่อนำเสนอต่อไป
นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย กล่าวว่า กลุ่มธรรมาภิบาลได้รับการร้องเรียนและแจ้งข้อมูลจากเครือข่ายผู้ประกอบการติดตั้งกล้องCCTVหลายราย ว่า ได้มีกลุ่มบุคคลไปแอบอ้างชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV)ทั่วประเทศ ไปหาประโยชน์โดยการวิ่งเต้นล๊อคสเปกงานติดตั้งกล้องCCTV ภายใต้นโยบายSmart City ของรัฐบาล โดยเอาบริษัทของตนและนอมินีให้ได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาตามหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. และเทศบาลต่างๆทั่วประเทศ อันเป็นพฤติการณ์ที่สร้างความเสียหายให้แก่งบประมาณแผ่นดิน และ กระทบต่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการที่ประชาชนควรจะได้รับ ซึ่งเป็นผลจากการเข้าไปวิ่งเต้นล๊อคสเปคเพื่อให้พวกตนชนะการประมูล และติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ อีกทั้งยังมีการแอบอ้างชื่อบุคคลสำคัญของบ้านเมืองเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดที่เกี่ยวข้องสำคัญผิด และ เกรงใจ จึงดำเนินการตามความต้องการของกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้
โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าว คือ “ กลุ่มเสี่ย ก.”ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งกล้องCCTVและเป็นเจ้าของบริษัทติดตั้งกล้องCCTV โดยตั้งตนและอ้างตนเป็นว่าเป็นผู้ประสานงานของผู้ใหญ่ในรัฐบาลให้ดำเนินการในเรื่องการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV)ทั่วประเทศต่อหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีแผนและงบประมาณที่จะติดตั้งกล้องCCTV โดยเข้าไปวางสเปคล่วงหน้าให้กับหน่วยงานที่จะจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้รับรับสเปคCCTVของกลุ่มตนเอง และ ทำให้บริษัทในกลุ่มของตนเองและนอมินีได้งานเป็นคู่สัญญาในหลายๆโครงการทั่วประเทศ อีกทั้งเพื่อให้เกิดความน่าชื่อถือ “ เสี่ย ก.”ยังได้มีพฤติการณ์ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ประกอบการติดตั้งCCTVที่สุจริต และบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นคนของผู้ใหญ่ในรัฐบาล ดังมีพฤติการณ์ ต่อไปนี้
1.อ้างตนว่ามีตำแหน่งประจำรัฐสภา คือ ตำแหน่งเลขานุการประจำกรรมาธิการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และ การบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้สามารถเข้าไปประสานงานกับ เทศบาล อบต.และ อบจ.ทั่วประเทศได้ อาจใช้ตำแหน่งไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อกิจการติดตั้งกล้องCCTVของตนเองได้
ติดตามข่าวสาร "คมชัดลีก" ผ่าน Line official
2.แอบอ้างชื่อของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ(ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV)ทั่วประเทศ) ไปประมูลงานจนเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการติดตั้งกล้องCCTVหลายรายที่สุจริต ไม่กล้าเข้าแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมได้ซึ่งเป็นกรณีที่ทำให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้รับความเสียหาย
3.อวดอ้างและแสดงตนว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด และเข้า-ออกอยู่เป็นประจำ จนเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการติดตั้งกล้องCCTVทั่วไปเข้าใจว่าเป็นคนของผู้ใหญ่ในมูลนิธิฯดังกล่าวอันอาจสามารถทำให้ตนได้รับงานในโครงการติดตั้งกล้องCCTVของรัฐบาลได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อมูลนิธิฯ
นายวัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า ทีกลุ่มธรรมาภิบาล ได้มายื่นหนังสือเรียกร้องในวันนี้ เพื่อขอให้ท่านตรวจสอบ และหรือ มีข้อสั่งการถึงบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ถูก“ กลุ่มเสี่ย ก.” แอบอ้างและได้รับความเสียหาย ให้ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดต่อกลุ่มขบวนการที่แอบอ้างตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดย กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ยินดีที่จะนำพยานบุคคลที่ทราบและเห็นเหตุการณ์ในการกระทำความผิดของกลุ่มขบวนการนี้มาเป็นผู้ยืนยันการกระทำตามพฤติการณ์ดังกล่าว เพื่อประกอบการตรวจสอบและเพื่อดำเนินคดีตามความประสงค์ของผู้เสียหายทุกกรณี
"การตรวจสอบ" - Google News
July 13, 2020 at 02:14PM
https://ift.tt/3elIDnl
กลิ่นโกงโชย ปชช.ร้อง "บิ๊กตู่" ตรวจสอบ พบอ้างชื่อ "บิ๊กป้อม" หาประโยชน์ - คมชัดลึก
"การตรวจสอบ" - Google News
https://ift.tt/2V8hayf
0 Comments:
Post a Comment