Wednesday, July 29, 2020

บอส อยู่วิทยา : ครอบครัวอยู่วิทยาอีกสายเรียกร้องครอบครัวของวรยุทธ "ทำทุกอย่างให้เป็นที่ยอมรับของสังคม" - บีบีซีไทย

superselebbanget.blogspot.com

Policemen examine a damaged Ferrari at the home of the late Red Bull founder Chaleo Yoovidhaya in Bangkok, Thailand 3 September 2012.

ครอบครัวอยู่วิทยาอีกสายออกจดหมายเปิดผนึกกดดันให้ ครอบครัวของวรยุทธ อยู่วิทยา แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตระกูลอยู่วิทยาเผชิญกระแสลบ "จนเกินกว่าจะแบกรับ"

ขณะที่สังคมตั้งคำถามและเรียกร้องความยุติธรรมกรณีสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจของทั้งคนไทยและสื่อต่างชาติ ล่าสุดรัฐบาลท่าทีตอบรับเรื่องดังกล่าวแล้ว

ช่วงเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนต่อเนื่องมาโดยตลอดนับแต่เกิดเหตุ อีกทั้งยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางและกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมันในองค์กร เจ้าหน้าที่ และกระบวนการยุติธรรม

ทั้งนี้คำสั่งของนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับการเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

คณะกรรมการตรวจสอบชุดนี้มี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการ ประกอบด้วยปลัดกระทรวงยุติธรรม, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย, ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม, นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย, คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, และผู้อำนวยการสำนักงานป.ย.ป. เป็นกรรมการและเลขานุการ

คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563

คกก.นี้จะไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ในคดี

คำสั่งนายกฯ ระบุว่าหน้าที่และอำนาจหลัก ๆ ของคณะกรรมการชุดนี้คือการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในคดีดังกล่าว และเสนอแนะแนวทางเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อประโยชน์ในด้านการพัฒนาองค์ความรู้ การปฏิบัติหน้าที่และการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนเสนอข้อแนะนำอื่นใด โดยไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ในคดีดังกล่าว

"บอส อยู่วิทยา"

คำสั่งดังกล่าวระบุอีกด้วยว่าคณะกรรมการชุดนี้จะต้องเสนอรายงานต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วันนับตั้งแต่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ แต่หากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าข้อเสนอแนะในการปฏิรูปยังไม่แล้วเสร็จ อาจจะให้ขยายระยะเวลาอีกได้ ทั้งนี้ให้คณะกรรมการรายงานเบื้องต้นต่อนายกรัฐมนตรีทุก 10 วัน

พล.อ.ประวิตร บอก ไม่รู้จัก "ตระกูลอยู่วิทยา"

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวในช่วงเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) โดยยืนยันว่าไม่รู้จักนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือตระกูลอยู่วิทยาเป็นการส่วนตัว หลังจากมีการเชื่อมโยงบุคคลที่มีนามสกุล "วงษ์สุวรรณ" เข้ากับการที่อัยการและตำรวจมีความเห็นไม่ฟ้องนายวรยุทธ ทายาทกระทิงแดง ในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต

Pravit Quotepic

"โห...ตระกูลผมไม่รู้จักกับตระกูลเขา เป็นการส่วนตัวก็ไม่เคยรู้จัก แล้วเขาก็ไม่เคยมาขอความช่วยเหลืออะไรผมเลย" พล.อ.ประวิตร

ถ้อยแถลงของพล.อ.ประวิตรมีขึ้นหลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์กรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในยุค คสช. ว่าอาจทำให้นายวรยุทธหลุดคดี โดยกมธ. ชุดนี้มี พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภาและน้องชาย พล.อ.ประวิตร เป็นประธานอยู่ด้วย

ส่วนกรณีที่ตระกูลอยู่วิทยาบริจาคเงินให้รัฐบาล 300 ล้านบาทว่าเป็นการบริจาคในฐานะเจ้าสัวทั่วไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ใช่ ๆ ไม่มีอะไร ก็ว่าไปตามขั้นตอน"

ส.ส.พปชร. ชงสภาฯ ตรวจสอบการทำงาน อสส.

อีกความเคลื่อนไหวของฝั่ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอหารือสภาผู้แทนราษฎรกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธว่า การดำเนินคดีที่ผ่านมาพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหานายวรยุทธถึง 5 ข้อหา แต่เมื่อระยะเวลาล่วงเลยมา 8 ปี มีการปล่อยให้คดีขาดอายุความจนเหลือเพียงข้อกล่าวหาเดียวคือ คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และต่อมาคดีนี้อัยการกลับมีคำสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นผลมาจากมีการเพิ่มพยานเข้ามาในคดีนี้เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2562 จึงขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องผดุงความยุติธรรมให้กับประชาชน และขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบใช้อำนาจของอัยการ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดกับประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายของวันนี้นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรได้เชิญตำรวจและอัยการมาชี้แจงกรณีนี้เช่นกัน

นายสิระกล่าวว่าเบื้องต้นได้รับแจ้งว่ารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรวมทั้งกรรมการของอัยการที่สอบสวนเรื่องนี้มาให้ข้อมูล

GETTY IMAGES

มี 4 คณะกรรมการพิจารณาประเด็นร้อน

หลังจากที่ตกที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องนี้แล้วอย่างน้อย 3 คณะ ประกอบด้วย

1. คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายสิระ ซึ่งวันนี้ได้เชิญตำรวจและอัยการมาชี้แจงกรณีนี้ และคาดว่าจะต้องมีการหารือกันอีกครั้งเพื่อสรุป

2. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 ซึ่งมี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานกรรมการ

3. คณะกรรมการตรวจสอบการสั่งพิจารณาคดีกรณีที่พนักงานอัยการไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าการสั่งสำนวนคดีดังกล่าวเป็นไปตามหลักกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และมีเหตุผลในการสั่งพิจารณาคดีอย่างไร โดยคณะกรรมการชุดนี้แต่งตั้งโดยสำนักงานอัยการสูงสุดและให้นายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พร้อมกับคณะทำงานอีก 7 คน

4. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งโดยคำสั่งของ พล.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยทำหน้าที่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมทุกฝ่าย เกี่ยวกับการดำเนินการข้อข้าราชการตำรวจว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการ 10 คน โดยมี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นประธานกรรมการ

"พี่น้องอยู่วิทยา" ออกจดหมายเปิดผนึก กดดัน "หลาน"

จดหมายเปิดผนึก ออกโดย "พี่น้องอยู่วิทยา" ที่เกือบทั้งหมดเป็นบุตร-ธิดาของ ภรรยาคนที่ 2 ของ นายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งกระทิงแดง ขอโทษสังคม และเรียกร้องให้หลานชายคือ นายวรยุทธ ออกมาแสดงความกระจ่างและความบริสุทธิ์ใจ หลังเผชิญกระแสลบ "จนเกินกว่าจะแบกรับ"

ในจดหมายระบุด้วยว่า "ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ครอบครัวคุณวรยุทธไม่ได้หารือหรือบอกเล่าการตัดสินใจหรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับพี่น้องเลย และพวกเราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจหลายเรื่องของคุณวรยุทธที่เราติดตามจากข่าว แต่พี่น้องก็ไม่เคยออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้"

จดหมายเปิดผนึกพี่น้องอยู่วิทยา

รายชื่อที่ปรากฏอยู่ท้ายจดหมายเปิดผนึกมีทั้งหมด 8 คน คือ นางสายพิณ พหลโยธิน (อยู่วิทยา) ซึ่งเป็นป้าของนายวรยุทธ และอีก 7 คน ซึ่งเป็นอาของนายวรยุทธ ได้แก่ นายศักดิ์ชาย อยู่วิทยา, นายสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา, นายจิราวัฒน์ อยู่วิทยา, น.ส.ปนัดดา อยู่วิทยา, น.ส.สุปรียา อยู่วิทยา, นายสราวุฒิ อยู่วิทยา และน.ส.นุชรี อยู่วิทยา โดย 6 คนหลังเป็นพี่น้องต่างมารดาของนายเฉลิม อยู่วิทยา ซึ่งเป็นพ่อของนายวรยุทธ

โดยพี่น้องตระกูลอยู่วิทยายอมรับว่า ไม่สามารถแบกรับกระแสลบที่ส่งผลกระทบต่อสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า "พวกเราทุกคนให้ความเคารพกฎหมายและยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรที่ต้องสามารถสร้างความยุติธรรมให้กับทุกคนด้วยความเท่าเทียมกัน" จึงเรียกร้องให้ "คุณวรยุทธแสดงความกระจ่างและความบริสุทธิ์ใจ ให้ครอบครัวอยู่วิทยาที่เหลือ รวมทั้งสังคมและสื่อมวลชนให้เร็วที่สุด และดำเนินการให้ถูกต้องตามครรลองของสังคม"

Let's block ads! (Why?)



"การตรวจสอบ" - Google News
July 29, 2020 at 10:00PM
https://ift.tt/337UvaS

บอส อยู่วิทยา : ครอบครัวอยู่วิทยาอีกสายเรียกร้องครอบครัวของวรยุทธ "ทำทุกอย่างให้เป็นที่ยอมรับของสังคม" - บีบีซีไทย
"การตรวจสอบ" - Google News
https://ift.tt/2V8hayf
Share:

0 Comments:

Post a Comment